จากกรณีที่มีเพจ อีซ้อขยี้ข่าว นำคลิปวิดีโอที่ผู้เสียหาย เป็นหญิงสาวคนหนึ่งได้บันทึกเอาไว้ ซึ่งเป็นภาพช่วงหลังจากที่เธอขับรถยนต์ ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ชายชาวต่างชาติ เป็นคนขี่ แต่เรื่องบานปลายฝ่ายคู่กรณีแสดงพฤติกรรมหัวร้อน พยายามเปิดประตูหาเรื่อง ถ่มน้ำลาย ขว้างสิ่งของใส่รถ และหนักถึงขั้นกระโดดถีบฝากระโปรงหน้าของเธอพังเสียหาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 มนาคมที่ผ่านมา บริเวณแยกแบริงตัดลาซาล ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ล่าสุด พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยผู้กำกับการ สภ.สำโรงเหนือ ได้เชิญ น.ส.อังคณา อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฏในคลิป รวมทั้งประเด็นที่อ้างว่าพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเธอด้วย
โดยผู้เสียหายเล่าว่า วันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.30 น. เธอขับรถไปทำธุระ ย่านซอยแบริง แต่ระหว่างทางไปเจอคู่กรณี เป็นชายชาวต่างชาติได้ขี่รถจักรยานยนต์ ลักษณะพยามเบรกเพื่อให้รถของเธอชนมาตลอดเส้นทาง จนขับรถเก๋งมาถึงที่เกิดเหตุ ชายต่างชาติคนนี้ ก็เบรกรถกระทันหัน ทำให้เธอเหยียบเบรกไม่ทัน พุ่งชนท้ายรถคู่กรณีจนเสียหลักล้ม ต่อจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ลุกขึ้นแล้วเดินมาต่อว่าเธอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และหาเรื่อง คุกคาม โดยเปิดประตูรถพยายามจะทำร้ายเธอให้ได้ ด้วยความกลัวจังหวะนั้นเธอเลยใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน จนทำให้ชายคนดังกล่าว ไม่พอใจโมโหรุนแรงหนักกว่าเดิม ขว้างสิ่งของใส่รถ และยังใช้เท้าและกระโดดถีบฝากระโปรงรถ ได้รับความเสียหาย
หลังเกิดเหตุชายชาวต่างชาติ อายุ 41 ปี ชาวออสเตรเลีย เดินทางมาที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อเจรจาค่าเสียหาย โดยมีตำรวจยศ ร.ต.ท.นายหนึ่ง เป็นเจ้าของคดี ชี้ว่าเธอเป็นฝ่ายผิดอย่างเดียว ทำให้เธอต้องยินยอมรับผิดชอบค่าเสียหาย ซึ่งกรณีตนเป็นฝ่ายผิด โดยประกันภัยเป็นคนรับผิดชอบ จำนวน 6,000 บาท ส่วนคู่กรณี ยินยอมชดใช้ ที่ทำให้เสียทรัพย์ 11,000 บาท และอีกประเด็นที่ติดใจ ก็คือระหว่างที่อยู่บนโรงพัก คู่กรณีแสดงกริยาเอะอะโวยวาย แถมยังโชว์นิ้วกลางเย้ยยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เหมือนคุกคามสิทธิความเป็นลูกผู้หญิง แต่ตำรวจเจ้าของคดีเอาแต่นิ่ง ไม่ดำเนินการใดๆ เลย
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สำโรงเหนือ เปิดเผยถึงกรณี ที่ผู้เสียหายกล่าวถึงพฤติกรรมและความเหมาะสมของพนักงานสอบสวน ที่ทำคดี ทำให้ผู้กำกับฯต้องออกมาชี้แจงและเตรียมตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตามระเบียบวินัย พร้อมทั้ง ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย กลางห้องประชุม ต่อหน้าสื่อมวลชนและตำรวจอีกหลายนาย
พ.ต.อ.วิโรจน์ กล่าวว่า หากสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วพบว่าพนักงานสอบสวน บกพร่องตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยต่อไป ส่วนคู่กรณีทราบว่าเดินทางกลับประเทศไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากนี้ต้องทำหนังสือไปยังสถานฑูตประเทศออสเตรเลีย และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรายงานว่า ชาวต่างชาติรายนี้ มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคมต่อไป
เปิดโปรแกรม 10 นัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล และ แมนซิตี้ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก
สรุปผล Oscar 2024 “คิลเลียน เมอร์ฟี – เอมมา สโตน” ซิวนักแสดงนำ หนัง “Oppenheimer” กวาด 7 รางวัล
บัตรสวัสดิการฯ เตรียมรับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” เพิ่ม เริ่มโอนงวดแรก 11-13 มี.ค.