นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมใน 52 จังหวัดทั่วประเทศขณะนี้ ศูนย์คาดการณ์ว่า จะเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,000 บาท หรืออยู่ในกรอบ 12,000-20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายของภาคเกษตร 6,000-8,000 ล้านบาท และภาคอุตสาหกรรม 6,000-12,000 ล้านบาท จากในช่วงต้นเดือน ต.ค.65 ที่ประเมินเสียหายที่ 5,000-10,000 ล้านบาท เพราะมีพื้นที่น้ำท่วมขังมากขึ้น และกระจายไปยังพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านการเกษตร และอุตสาหกรรม เช่น พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ สระบุรี ฯลฯ
“น้ำท่วมขังครั้งนี้ กระจายเป็นวงกว้างมากขึ้น ทำให้ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ น้ำท่วมได้รับผลกระทบโดยตรง และยังเกิดผลกระทบจากการเสียโอกาสทางธุรกิจ ที่ทำให้ประชาชนเดินทางไปทำงาน ทำธุรกิจ ท่องเที่ยวได้ลำบากมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจ การท่องเที่ยวไม่เกิด”
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายดังกล่าว เมื่อเฉลี่ยทั้ง 52 จังหวัด จะอยู่ที่จังหวัดละกว่า 100 ล้านบาท ไม่กระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ หรือกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เพียง 0.1-0.5%และหลังจากน้ำท่วมผ่านไปแล้ว จะมีการฟื้นฟู เยียวยา ซ่อมแซม ทำให้มีเงินอัดกลับเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงไม่มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเท่าที่ควร ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังโตได้ 3.3-3.5%ตามที่คาดไว้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย และผู้บริโภคเดือน ก.ย.65 พบว่า แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม และดัชนีการเมืองต่ำสุดในรอบ 6 เดือนจากปมนายกฯ 8 ปี และการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ แต่ภาคธุรกิจมองว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้ว จากการค้าขายระหว่างประชาชน และภาคธุรกิจ โดยมีการท่องเที่ยวตามมา แต่ต้องการให้ภาครัฐดูแลต้นทุน ทั้งราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ที่ควรปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ขึ้นเร็วเกินไปนัก เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนภาคธุรกิจ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกซึมตัว
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังต้องการให้ภาครัฐดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ โดยศูนย์ มองว่า ค่าเงินบาทในระยะสั้น จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 37.5-38.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1-1.25% มาอยู่ที่ 4.25-4.50% ทำให้เงินบาทหลุด 38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ในภาคผู้บริโภค แม้ยังกังวลค่าครองชีพสูง การใช้จ่าย น้ำท่วม จ้างงาน แต่ในอนาคต ความเชื่อมั่นค่อยๆ ดีขึ้น โดยศูนย์มองว่า ปัญหาการเมืองในประเทศ และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคไม่มากนัก คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“นับจากนี้เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะซึมตัว กระทบต่อการส่งออก และท่องเที่ยวของไทย แต่ยังไม่รู้ว่า จะกระทบอย่างไร และเมื่อไร ยังต้องดูสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนอีกว่าจะหนักหน่วงแค่ไหน แต่ยังโชคดี ที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการซีโร่ โควิดแล้ว จะเข้ามาช่วยเศรษฐกิจไทยได้ มองว่า ในอีก 3-6 เดือน เศรษฐกิจไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย และจะฟื้นเป็นลำดับ และเศรษฐกิจโลกซึมตัว ยังไม่กระทบการส่งออกในไตรมาส 4 ยังมั่นใจว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะโตได้ 3.3-3.5% แต่ปีหน้า ต้องดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ และมีแนวรับทำให้เศรษฐกิจฟื้นเร็ว”
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.65 พบว่า ดัชนีดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยดัชนีอยู่ที่ 44.6 เพิ่มขึ้น 43.7 ในเดือน ส.ค.65, ดัชนีเชื่อมั่นในปัจจุบัน อยู่ที่ 29.6 เพิ่มจาก 28.7, ดัชนีเชื่อมั่นในอนาคต อยู่ที่ 51.7 เพิ่มจาก 50.8 ขณะดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 38.6 เพิ่มจาก 37.8, ดัชนีเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางาน อยู่ที่ 41.9 เพิ่มจาก 40.9 และดัชนีเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 53.3 เพิ่มจาก 52.3 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ 49.8 เพิ่มจาก 47.3 โดยมีปัจจัยบวกจาก ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งคนละครึ่งเฟส 5, เพิ่มกำลังซื้อบัตรคนจน, ครม.ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, รัฐผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศลดลง ฯลฯ