ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าในไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 4,566.28 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0472 บาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาส 2 ปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ3,438.33 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0356 บาท
ในครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ 8,860.80 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0916 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 6,633.23 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0687 บาท
กำไรสุทธิ TTB รายไตรมาส
ธนาคารทหารไทยธนชาตประกาศผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อนสืบเนื่องจากกลยุทธการปรับโครงสร้างงบดุลให้มีความเหมาะสมที่ดำเนินมาตั้งแต่หลังการรวมกิจการ ทำให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการเงินทุนและสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางวัฏจักรดอกเบี้ย ขาขึ้น โดยธนาคารยังคงเน้นกลยุทธ์หมุนเวียนสภาพคล่องจากสินทรัพย์ที่ไห้ผลตอบแทนต่ำปรับไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงโดยพิจารณาสภาวะตลาดทำให้เห็นสัดส่วนสินเชื่อปรับไปยังสินเชื่อรำยย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงมากขึ้นและการเพิ่มขึ้นของพอร์ตเงินลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนของธนาคารดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ทีเอ็มบีธนชาต "ปรับขึ้นดอกเบี้ย" เงินฝาก-กู้ มีผล 7 มิ.ย. เป็นต้นไป
ทีทีบี คาดปี66 นทท.ในไทย เพิ่ม 25.4% เผยคนเลือกไปเที่ยวผ่านการดูอินฟลูเอนเซอร์
ในไตรมาส 2 ปี 2566 ธนาคารยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีโดยเฉพาะจาก3 ด้านหลัก อย่างการเติบโตของรายได้ ความมีวินัยด้านต้นทุน และคุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารจัดการได้ดีรายได้จาการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น12%จากทั้งรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น14%และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6%
ในส่วนอัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ย(NIM) ขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง (+35 bps YoY) จากการควบคุมระดับต้นทุนทางการเงินที่ดีและอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นตามสภาวะอัตราดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้น
ในด้านค่าใช้จ่าย ธนาคารยังคงควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินได้อย่างประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระดับอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้(C/I) ทรงตัวที่44% คุณภำพสินทรัพย์อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้สะท้อนจาก risk cost ลดลงอยู่ที่ 125 bps ระดับสัดส่วนหนี้เสียคงที่และอัตรส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่แข็งแรง อยู่ที่ 144%ในไตรมาสนี้ นอกจากความเข้มงวดในการบริหารจัดการความเสี่ยงแล้วนั้น ธนาคารยังคงเติบโตสินเชื่อใหม่ด้วยความระมัดระวังเพื่อปรับสัดส่วนสินเชื่อไปยังกลุ่มสินเชื่อรำยย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2566 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงมีทิศทางฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ในด้านภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2566 อาจจะต่ำกว่าที่คาดการณ์ครั้งก่อนที่ 29.5 ล้านคน เนื่องจากสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย ประกอบกับผลพวงจากอุปสงค์คงค้าง (Pent-up Demand) ที่เริ่มแผ่วลงเช่นกัน
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากทั้งในหมวดพลังงานและอาหารสด สำหรับมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยเห็นสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้นสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลก เบื้องต้นยังคงประเมินมูลค่าส่งออกสินค้าของไทยทั้งปี 2566 หดตัวเล็กน้อยที่0.5% สำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มทรงตัวตามทิศทางการส่งออกสินค้าและกิจกรรมในภาคการผลิต
ทั้งนี้ ttbanalytics ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะยังขยายตัวได้3.4% อย่างไรก็ดี มีโอกาสที่จะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยลงต่ำกว่าคาดหากอุปสงค์ต่างประเทศและการบริโภคภาคเอกชนชะลอลงอย่างชัดเจน
สำหรับด้านตลาดเงิน กนง.มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย0.25% ในไตรมาสนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาในระยะปานกลาง
ทั้งนี้ ttb analytics ประเมินอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นไตรมาสที่สามจะอยู่ที่ 2.25%ด้านค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย สำหรับค่าเงินบาทในไตรมาส 3 ปี 2566 จะอยู่ในช่วง 34.00-35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ